naza
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาไม่นานนี้ หลายคนคงทราบข่าวใหญ่ที่แชร์กันไปทั่วโลกโซเชียล เมื่อวงการดาราศาสตร์ทั่วโลกกำลังตื่นเต้นตกตะลึงกับการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ขององค์การนาซ่า นั่นคือ ระบบสุริยะแห่งใหม่ที่คล้ายคลึงกับระบบสุริยะจักรวาลของเราอย่างมาก แล้วยังค้นพบดาวที่มีลักษณะใกล้เคียงกับโลกถึง 7 ดวง จึงมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้นั่นเอง นี่จึงเป็นหนึ่งในการค้นพบครั้งใหญ่และอาจจะนำไปสู่คำถามว่า มนุษย์เราอยู่เพียงลำพังในจักรวาลหรือไม่
การค้นพบนี้ นักดาราศาสตร์ของนาซ่า ได้พิมพ์รายงานวิจัยในนิตยสาร Nature เพื่อเผยแพร่การค้นพบระบบดาวเคราะห์ 7 ดวงที่โคจรรอบดาวฤกษ์ มีชื่อเรียกว่า TRAPPIST-1 ซึ่งดาวเคราะห์เหล่านี้ถูกตั้งชื่อเรียงตามไปว่า TRAPPIST-1b, 1c, 1d, 1e, 1f, 1g, และ 1h
ที่น่าสนใจมากก็คือ ทุกดวงมีขนาดใกล้เคียงกับโลกมนุษย์ของเรามาก แล้วยังอยู่ไม่ห่างกันมากนัก โดยห่างจากระบบสุริยะจักรวาลของเราราว 39 ปีแสงเท่านั้น
การค้นพบนี้เกิดขึ้นโดยอาศัยข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์ TRAPPIST ที่ตั้งอยู่ในชิลี
กล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์ของนาซ่าเอง ทำให้ระบุขนาด วงโคจร มวลของดาวเคราะห์ทั้ง 7 นี้ได้ ทุกดาวล้วนมีผิวดาวเป็นหินเหมือนโลก แล้วยังมีดาวเคราะห์ 3 ดวงที่โคจรในบริเวณ Goldilocks Zone มีการยืนยันแล้วว่า มีโอกาสมากที่จะมีสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นแล้วอาศัยอยู่ได้ โดยอาจอยู่ในรูปของเหลวในน้ำ
สำหรับคุณลักษณะอื่นๆนั้น TRAPPIST-1 จัดเป็นดาวฤกษ์ที่มีแสงสลัวขนาดใหญ่กว่าดาวพฤหัสเพียงเล็กน้อย มีมวลเพียง 8% ของดวงอาทิตย์ ความจ้าของแสงแดดแค่ 0.05% ของดวงอาทิตย์ TRAPPIST-1 คาดว่าอายุอย่างน้อยราว 500 ล้านปี แม้ว่าจะเล็กกว่าดวงอาทิตย์ของเรามาก แต่ก็เป็นดาวแคระที่ความร้อนไม่สูงนัก กว่าจะเผาผลาญพลังงานจนหมดก็ต้องใช้เวลานานถึง 5 ล้านล้านปี เท่ากับว่าจะมีอายุขัยนานกว่าระบบสุริยะจักรวาลเราถึง 1,000 เท่า นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า ในอนาคตหากพระอาทิตย์ของเราดับสิ้นลงเพราะเผาผลาญพลังงานในตัวเองหมดแล้ว TRAPPIST-1 ก็จะยังคงดำรงอยู่ได้อีกเป็นระยะเวลานานมากพอที่สิ่งมีชีวิตจะวิวัฒนาการต่อไปได้
สำหรับดาวเคราะห์ที่เชื่อว่าน่าจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่มากที่สุด ก็คือ ดาวเคราะห์ 3 ดวงที่โคจรใน Goldilocks Zone คือ TRAPPIST-1e, TRAPPIST-1f และ TRAPPIST-1g เป็นบริเวณที่ห่างจากดาวฤกษ์ของระบบนี้มากพอจะมีชีวิตเกิดขึ้นแล้วอยู่รอดจนวิวัฒนาการต่อไปได้ โดยใน Goldilocks Zone จัดเป็นบริเวณที่น้ำเหลวสามารถคงสภาพอยู่ได้ที่พื้นผิวของดาว ต่อให้โคจรหันไปทางดาวฤกษ์ด้านเดียวตลอดเวลาก็ตาม แต่นักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์ก็วิเคราะห์แล้วเชื่อว่า บรรยากาศของดาวจะช่วยลดความร้อนลง ดังนั้นโดยสรุปแล้ว 1e น่าจะมีอุณหภูมิใกล้เคียงกับโลก รวมถึง 1f ด้วย ส่วนดาวเคราะห์ 1g ที่อยู่ใน Goldilocks Zone เป็นดวงสุดท้าย น่าจะมีอุณหภูมิคล้ายดาวอังคาร แต่ก็ไม่แน่ว่าอาจจะมีสิ่งมีชีวิตได้เช่นกัน
การค้นพบระบบและดาวเคราะห์ TRAPPIST ทั้ง 7 ดวง ถือว่าเป็นการค้นพบทางดาราศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 21 ที่อาจทำให้เราไม่ได้คิดไปเองก็ได้ว่า จักรวาลนี้ยังมีดาวอีกหลายดวงที่เหมาะสมต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์ หรือถ้าจะมีมนุษย์ต่างดาว ก็เป็นไปได้เช่นกัน